กิจกรรมท้ายบทที่ 8
1. จงให้นิยามความหมายของคำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาตอบ การนำวัสดุอุปกรณ์และการจัดระบบข้อมูล การประมวลผลทางคอมพิวเตอร์และการนำเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษา
2. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างไร
ตอบ - เป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร
- ช่วยจัดระบบบริหารจัดการการศึกษา
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้
- เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอ
- ช่วยขยายโอกาสทางการศึกษา
- ช่วยสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3. บทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มีอะไรบ้าง
ตอบ
ผู้สอน
|
ผู้เรียน
|
สถานศึกษา
|
เป็นสื่อการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
|
เป็นสื่อแสวงหาความรู้
|
สนับสนุนการปฏิบัติงานของสถานศึกษา
ติดตามประเมินผลการจัดการเรียนรู้
|
เป็นเครื่องมือในการบูรณาการกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์
|
เป็นเครื่องมือในการเติมเต็มความรู้
|
เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม
|
เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้ด้วยโครงงานและรูปแบบอื่นๆ
|
เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างชิ้นงาน(constructionism)
|
เป็นเครื่องมือในการแสดงผลงาน
|
ใช้เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร
ปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
|
||
ใช้เป็นเครื่องมือในการประเมิน
ติดตามตรวจสอบผลผลสำฤทธิ์ของผู้เรียน
|
ใช้เป็นเครื่องตรวจสอบและประเมินตนเอง
|
เป็นเครื่องมือในการติดตามและประเมินผลการทำงาน
และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
|
4. จงอธิบายถึงคุณค่าและการใช้เทคโนโลยี Cloud Computing เพื่อการศึกษา
ตอบ - ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- ลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษา
- ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นหรือทดลองโครงการ
- มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดระบบตามความต้องการ
- ได้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพ มีระบบสำรองข้อมูลที่ดี มีเครือข่ายความเร็งสูง
- มีผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบและพร้อมให้บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
5. จงอธิบายความแตกต่างระหว่าง web 2.0 และ web 3.0 พร้อมประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา
ตอบ
Web 2.0
|
Web 3.0
|
ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้
(Read-Write ) เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
เช่น เว็บบอร์ด เว็บบล็อก วิพีเดีย เป็นต้น
ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลมาเกี่ยวข้อกับเทคโนโลยีนี้ด้วย
|
ผู้ชมสามารถอ่าน เขียน จัดการ (Read-Write-Execute ) คือจากที่ผู้เข้าไปใช้อ่าน และเพิ่มข้อมูล
ผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งข้อมูลหรือระบบได้เองอย่างอิสระมากขึ้น
|
6. YouTube คือสื่อสังคมออนไลน์ประเภทใด และมีประโยชน์กับการศึกษาอย่างไร
ตอบ เป็นสื่อประเภท โทรทัศน์ออนไลน์หรือโทรทัศน์อินเตอร์เน็ต มีประโยชน์ในการถ่ายเผยแพร่ผลงาน วิดีทัศน์แลกเปลี่ยนความรู้ โดยการนำเสนอผ่านสื่อสังคมออนไลน์
7. ทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาใหม่ของครู มีอะไรบ้าง
ตอบ ประกอบด้วย 3ทักษะ
ทักษะที่1 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการจัดหาและการจัดการแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ได้
ทักษะที่2 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการผลิตและจัดทำสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
ทักษะที่3 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ และแบ่งปันข้อมูลสาระสนเทศกับเพื่อนร่วมงาน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง ท้องถิ่น และขยายไปยังชุมชุนทั่วโลก
8. สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) มีประโยชน์ต่อการศึกษาอย่างไร
ตอบ มีประโยชน์กับการศึกษาที่สามารถส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เช่นข้อมูลทางการศึกษา ภาพนิ่ง เสียง วีดิทัศน์ สื่อการสอนไปได้พร้อมๆกัน เป็นต้น โดยไม่มีการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และเส้นใยแก้วนำแสงมีลักษณะพิเศษที่ใช้เชื่อมโยงระหว่างจุดๆหนึ่งได้ จึงเหมาะกับการเชื่อมระหว่างอาคารเรียนอีกด้วย
9. วิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1G-4G มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ ยุค1G เป็นการรับส่งสัญญาณแบบผสมสัญญาณแอนะล็อกเข้าช่องสื่อสารโดยใช้การแบ่งความถี่ออกเป็นช่องเล็กๆ
ยุค2G เป็นยุคที่เริ่มใช้การรับส่งสัญญาณโทรศัพท์แบบดิจิทัล
ยุค2.5G กำเนิดเทคโนโลยี GPRS และมีการบริการรับส่งข้อมูลที่ความเร็วระดับ 20-40 Kbps
ยุค 2.75G เริ่มมีการใช้เทคโนโลยี EDGE และมีความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลประมาณ80-100 Kbps/วินาที
ยุค3G มีประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูล และความเร็วในการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง มีบริการmultimedia รับ-ส่งFileขนาดใหญ่ Video/Call Confernce Downlond เพลง เป็นต้น
ยุค 4G มีBandwidth กว้างกว่า สามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วกว่า 3G ใช้งานได้ทั่วโลกและถูกกว่า การเชื่อต่อแบบไร้สายจะมีความเร็วกว่า3G ถึง7เท่า คือความเร็วที่ ตั้งแต่100 Mbps -1024 Mbps
10.หลักการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลสารสนเทศบนเว็บไซต์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง
ตอบ 1.ประเมินวัตถุประสงค์ความต้องการในการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศไปใช้ ประกอบด้วย
-ผู้ใช้ต้องวิเคราะห์ความต้องการของตน ในการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศไปใช้
-ผู้ใช้แยกแยะประเด็น ละเลือกหัวข้อที่ต้องการสืบค้น
2.พิจารณาด้านคุณภาพบนเว็บไซต์ที่ใช้ในการเผยแพร่ ได้แก่
-ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์หรือไม่
-ข้อมูลดังกล่าวเป็นเนื้อหาสาระตรงตามวัตถุประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์หรือไม่
-เว็บไซต์ดังกล่าววได้ให้ที่อยู่ e-mail address ในการติดต่อสอบถามหรือไม่
-เว็บไซต์สามารถเชื่อมโยงlinkไปเว็บที่อ้างอิงได้หรือไม่
-เว็บไซต์มีการปรับปรุงข้อมูลต่อเนื่องหรือไม่ และมีช่องทางให้ผู้อ่นแสดงความคิดเห็นหรือไม่
-เว็บไซต์มีข้อความเตือนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจใช้ข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์
3.พิจารณาด้านเนื้อหาข้อมูลสารสนเทศบนเว็บไซต์ที่นำเสนอ
-ข้อมูลสารสนเทศดังกล่าวมีที่มาและแหล่งอ้างอิงเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือไม่
-เนื้อหาเว็บไซต์ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ศีลธรรมและจริยธรรม และมีการบอกระบุวันเวลาในการเผยแพร่ข้อมูล
-เนื้อหาดังกล่าวต้องมีการระบุชื่อผู้เขียนบทความหรือผู้ให้ให้ข้อมูลหรือไม่
-คุณภาพของเนื้อหาสาระในการเขียน ต้องมีความถูกต้อง ดังนี้ สำนวนภาษาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ และใช้ภาษาทางการ สละสลวย และสุภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น